บทสัมภาษณ์จากผู้เชี่ยวชาญ คุ้งบางกระเจ้า

ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 1 คุ้งบางกระเจ้า

ให้ความรู้โดย คุณลุงต้อย บ้านธูปหอม คุ้งบางกระเจ้า

ผู้สัมภาษณ์ : ตอนนี้เรากก็อยู่กับคุณลุงต้อยไกด์ท้องถิ่นที่คุ้งบางกระเจ้า นะครับ คุณลุงสวัสดีครับ 

ลุงต้อย : สวัสดีครับ

ผู้สัมภาษณ์ : เดี๋ยวเข้าเรื่องกันเลยนะครับ

ลุงต้อย : ครับผม

ผู้สัมภาษณ์ : ก็คืออยากรู้ความเป็นมาของคุ้งบางกระเจ้า

ลุงต้อย : คุ้งบางกระเจ้า เมื่อก่อนเป็นดินแดน บางก็คือ ที่น้ำท่วม เมื่อก่อนเนี่ย 100 ปีแล้ว ที่มีส่วนหนึ่งมีเจ้าอาศัยอยู่ และก็ประชาชนอาศัยอยู่คนละฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยากัน แล้วเกิดสงคราม แถวๆพระสมุทรเจดีย์ แถวอำเภอพระประแดง ก็มีการหนีฝั่งมาเพื่อความอยู่รอดของชีวิต มีคนที่เกี่ยวข้องกับราชวงษ์บางกลุ่มในสมัยนั้น ย้ายตัวเองอีกฝั่งหนึ่งมาอยู่อีกฝั่งหนึ่ง พระประแดง พอมาอยู่นานๆ ประชากรก็เยอะขึ้น มีทั้งโซนที่เป็น ข้าราชการ โซนที่เป็นประชาชน  เป็นข้าทาสบริวาล  เกาะเนี่ย เหมือนเกาะที่เหมือนกระเพาะหมู มีตัวคลองเป็นตัวกั้น ปัจจุบันชื่อว่าคลองลัดโพธิ์ คือเมื่อก่อนคลองลัดโพธิ์มีแล้ว แต่มีการถม แต่ที่ชื่อบางกระเจ้าคือ เจ้าได้มอบแผ่นดินมาให้กับคนในชุมชนนี้ แต่ในชุมชนนี้ก็มี 6 อบต. บางบัว บางกระสอบ บางน้ำผึ้ง บางยอ บางกระเจ้าเอง  และก็มาสรรหากันว่าชื่อไหนที่เหมาะที่สุด ที่เพราะที่สุด สุดท้ายก็ใช้คำว่า บางกระเจ้า  เพราะเป็นเจ้าพระราชทานให้ด้วยเนอะ 

ผู้สัมภาษณ์ : ผู้ที่ดูแลคุ้งบางกระเจ้านี้ ใครเป็นคนดูแล หน่วยงานไหน ผู้ดูแล

ลุงต้อย : กระทรวงมหาดไทย แบ่งออกเป็น 6 อบต. ก็มาจากตำบลนั้นแหละ  ตำบลก็ใหญ่ขึ้นเป็น อบต.

ผู้สัมภาษณ์ : และคนส่วนใหญ่ที่มาคุ้งบางกระเจ้ากัน ส่วนใหญ่เขามาทำอะไรกัน มีกิจกรรมอะไร

ลุงต้อย : มีแบ่งออกมา 2 กลุ่ม กลุ่มแค่ขี่จักรยานผ่านไป ตามที่เขาโฆษณาประชาสัมพันธ์ และอีกกลุ่มนึง มาศึกษาเส้นทางวัฒนธรรม ขี่แล้วมาจอด วัด  วิถีโบราณของคน อาชีพของคน เพื่อเข้ามาดูตามจุดต่างๆในคุ้งบางกระเจ้า

ผู้สัมภาษณ์ : แหล่งการศึกษา ภูมิปัญญาท้องถิ่นในคุ้งบางกระเจ้า มีอะไรบ้าง ครับ

ลุงต้อย : ก็มีโรงเรียน วัด วิสาหกิจชุมชน เกิดจากการร่วมกลุ่มกัน 7 กลุ่ม บ้านธูปก็เหมือนกัน ทั้งหมดที่พูดไป เป็นแหล่งเรียนรู้ทั้งหมดเลย

ผู้สัมภาษณ์ : คุ้งบางกระเจ้านี้คุณลุงคิดว่ามันแตกต่างจากสวนสาธารณะ อย่างไร

ลุงต้อย : เพราะในบางกระเจ้าเองก็มีสวนสาธารณะเอง แต่มีดินแดนที่มีเนื้อที่ใหญ่ 11,500 ไร่ ใหญ่กว่าสวนสาธารณะที่อื่น  และก็มีสวนสาธารณะ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์  เป็นแหล่งเรียนรู้ด้วยนะ และก็มีเนื้อที่ 2,000 กว่าไร่

ผู้สัมภาษณ์ : คนจะมาในช่วงเวลาไหน ที่เขาจะมาเที่ยวกัน 

ลุงต้อย : ถ้าเป็นนักเรียน นิสิตนักศึกษาก็จะมากันวันธรรมดามาศึกษาหาวิชาความรู้ ทำรายงาน ทำโปรเจ็ค ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวก็จะมาช่วง เสาร์-อาทิตย์ เป็นส่วนใหญ่ เพราะ เสาร์อาทิตย์เนี่ยแหล่งท่องเที่ยวทุกแหล่งจะเปิด วันธรรมดาบางที่ก็จะไม่เปิด

ผู้สัมภาษณ์ : คุ้งบางกระเจ้านี้เขาบอกกันว่าเป็นแหล่งที่บรรยากาศดีที่สุด ของกรุงเทพ 

ลุงต้อย : เป็นปอดของคนกรุงเทพ ของประเทศไทย ที่ต้องรักษาไว้ เป็นที่ฟอกอากาศ สิ่งแวดล้อม

ผู้สัมภาษณ์ : ลุงคิดว่าคนที่มาคุ้งบางกระเจ้านี้ คนที่มาเขาจะได้รับ อะไรจากบางกระเจ้า

ลุงต้อย : 1. ได้รับบรรกายาศดีดี อากาศที่บริสุทธิ์  2. ความเงียบสงบ กับธรรมชาติที่ควบคู่กัน และได้รับวิถีชุมชนที่ให้คนมาศึกษา 

ผู้สัมภาษณ์ : ครับ ก็จะขอให้คุณลุงเชิญชวน คุณผู้ชมมาเที่ยวบางกระเจ้า ครับ 

ลุงต้อย : ถ้ามีเวลานิดนึงในช่วงวันหยุด  2-3 ชั่วโมง ก็เดินทางมาที่คุ้งบางกระเจ้า โดยเฉพาะชุมชน ที่เขาเรียกว่า ชุมชนสีเขียว ต้องเลือกชุมชนที่ถูกต้องด้วยว่า เราจะไปตรงจุดไหน ถ้าออกกำลังกาย ก็ต้องเลือกชุมชนสีเขียว เพื่อออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน ถ้าชุมชนสำหรับจับจ่ายซื้อของ ต้องเลือกโซนให้ดี 1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมง ก็เหมาะสำหรับการมาท่องเที่ยวบางกระเจ้า เพราะการเดินทางตอนนี้สะดวก มีสะพานภูมิพลเพื่อข้ามมา  ทำให้การเดินทางรวดเร็ว ใช้เวลาน้อยในการเดินทาง เข้ามาเยี่ยมบางกระเจ้า และก็เดินทางกลับ

ผู้สัมภาษณ์ : และวันนี้ก็ขอบคุณลุงต้อยมากนะครับที่ให้ข้อมูลกับทางเรา นะครับ ขอบคุณครับ

ลุงต้อย : ครับ ขอบคุณครับ

บทสัมภาษณ์

ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 2 คุ้งบางกระเจ้า

ให้ความรู้โดย คุณลุงแดง ไกด์ท้องถิ่น คุ้งบางกระเจ้า

ผู้สัมภาษณ์ : สวัสดีครับ

ลุงแดง : สวัสดีผมลุงแดงนะครับ ผมเป็นไกด์ของตำบลนี้ และบ้านธูปแห่งนี้ครับ 

ผู้สัมภาษณ์ : ก่อนอื่นต้องถามเกี่ยวกับความเป็นของคุ้งบางกระเจ้า

ลุงแดง : สมัยก่อนนี้ น้ำจะท่วมทุกปี  จะมาเมื่อ 30-40 ที่แล้ว ทางจังหวัดทำถนน เป็นล็อกๆให้ ให้ถนนเล็กๆ ทางจังหวัดทำถน ทะลุหากันบางน้ำผึ้ง บางกระบัว มีอยู่ 6 ตำบล  ระยะทางในกระเพาะหมู 600 เมตร  ความกว้าง แต่มันมาแล้วมันใหญ่โตรอบนี้ สมัยก่อนโบราณเขาเรียกกันว่าโค้งข้าวเหนียวบูด มันไกลมาก ประมาณ 17 18 กิโล 

ผู้สัมภาษณ์ : สำหรับคนที่ดูแลและจัดการคุ้งบางกระเจ้าเป็นหน่วยงานใด ครับ

ลุงแดง : เป็นแต่ละตำบล พวกผู้บริหารตำบล บางน้ำผึ้ง บางกระบัว ขึ้นอยู่กับ อบต. ทั้งหมดเป็นคนดูแลแต่ละคำบล นะครับ

ผู้สัมภาษณ์ : แล้วคนส่วนใหญ่จะมาทำอะไรที่คุ้งบางกระเจ้า 

ลุงแดง : ก็จะมาปั่นจักรยาน ถ้ามาจากคลองเตย ก็จะผ่าน หมู่บ้านปลากัด และก็สวนนครเขื่อนขันธ์ และก็จะยิงทะลุมาเลย ก็จะมาตลาดน้ำ ตลาดน้ำเสร็จ โดยมากถ้าจะมามากสุด ก็คือบ้านธูปสมุนไพร คือเรามีกิจกรรม ทั้งธูป ผ้ามัดย้อม  หรือคุณมาเป็นคณะ เขาก็จะจัดว่า ขี่จักรยานด้วย มัดย้อมด้วย ทำธูปด้วย ตรงนี้ก็จะเป็นจุดเด่น ที่จะมาถ่ายทำ

ผู้สัมภาษณ์ : ลุงคิดว่าลักษณะเด่นของคุ้งบางกระเจ้าแตกต่างจากสวนสาธารณะทั่วไปยังไง

ลุงแดง : ก็มันเปิดอ่ะ ใครจะมาก็ได้ ท่องเที่ยวได้ทั่วไป โดยส่วนมากนักท่องเที่ยวจะมาด้วยจักรยาน คือเขาจะขี่รอบเกาะ ตามซอกเล็ก ซอกใหญ่ ถ้าคนมาบ่อยๆจะรู้ สมัยก่อนผมจะพา โดยมากจะเป็นพวก ฮอนแลนด์ เยอรมัน ฝรั่งเศส ผมก็จะพาเขาไป นะครับ ผมก็จะเป็นท้องถิ่นพาเที่ยว ในคุ้งนี้คุณจะไปไหนขอให้บอก

ผู้สัมภาษณ์ : นอกจากแหล่งศึกษาทั่วไป ลุงคิดว่ามีแหล่งศึกษาไหนที่ลุงคิดว่ามีความน่าสนใจ

ลุงแดง : ที่น่าศึกษาก็มี คุณสุกิตติ์ ที่อยู่บางกระสอบ ที่จะเรียนรู้ธรรมชาติของป่าลำพูล ก็จะมาดูหิ่งห้อย ลงเรือ ดูหิ่งห้อยกันยามค่ำ จะเหมาะเรือดูตามแม่น้ำ แถวบางกระสอบนะครับ ก็จะมีป่าอยู่ 2 แห่ง ถึง 3 แห่ง  เป็นป่าเรียนรู้ ธรรมชาติ โดยมากนักศึกษา นักเรียนจะไปศึกษาที่นั้น 

ผู้สัมภาษณ์ : ลุงคิดว่าสิ่งที่คนที่จะได้รับจากการมาบางกระเจ้า คืออะไรครับ

ลุงแดง : ก็คงได้เรียนรู้ ธรรมชาติของแต่ละหมู่บ้าน เป็นอย่างงี้นะ  ทำไอ้นี่นะ อะไรก็ว่าไป  อย่างเช่น ทำมะพร้าว กวนน้ำตาล นะ ที่นี่ ก็มัดย้อม ทำธูป แบบว่าต่างคนต่างมา หรือว่าท่องเที่ยว อยากจะมาทานอาหารริมแม่น้ำ เขาก็มีห้องอาหารพบรัก และก็บางกอกทีเฮ้า ถ้าคุณจะมาทำบุญก็ วัดบางน้ำผึ้งใน วัดบางน้ำผึ้งนอก  และจัดเด่นก็คือตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง อันนี้ดังมาก 

ผู้สัมภาษณ์ : ก็อยากให้คุณลุงเชิญชวนผู้ที่ชมอยู่มาเที่ยวคุ้งบางกระเจ้า ครับ

ลุงแดง : คือโดยมากสื่อออกไปเยอะมาก ซึ่ง 2 3 อาทิตย์ที่แล้ว แอดก็มาช่อง 11 ก็มีการชักชวนกันมา มันจะออกหลายช่อง ทุกช่องอ่ะ มีการออกทุกเวลา

ผู้สัมภาษณ์ : ก็ขอบคุณลุงแดงมากนะครับ ที่เป็นไกด์ที่ทำให้เรารู้จักคุ้งบางกระเจ้ามากขึ้นกว่าเดิมนะครับ ขอบคุณครับ 

ผู้เชี่ยวชาญท่านที่ 3 คุ้งบางกระเจ้า

ให้ความรู้โดย คุณ ปอนด์ คุณเบส จาก เพจ จักรยานธรรมดา แต่...พาไปทุกที่ คุ้งบางกระเจ้า 

ผู้สัมภาษณ์ที่ 1 : ตอนนี้เราก็อยู่กับผู้เชี่ยวชาญคุ้งบางกระเจ้ากันนะครับ สวัสดีพี่ปอนด์ กับ พี่เบส ด้วยนะครับ 

ผู้สัมภาษณ์ที่ 1 : เดี๋ยวขอถามเข้าเรื่องกันเลยนะครับ

ผู้สัมภาษณ์ที่ 2 : คนส่วนใหญ่เขามาทำอะไรที่คุ้งบางกระเจ้ากันครับ

คุณเบส : ส่วนมากคนที่มาที่นี้  มาชมธรรมชาติ ออกกำลังกาย ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ก็จะมีหลายๆ อย่าง ตลาดน้ำ  ฟาร์มเห็ด บ้านธูป  บ้านปลากัด  ทั้งหมดนี้คือที่ทุกคนมา กันครับ 

ผู้สัมภาษณ์ที่ 2 : ที่คุ้งบางกระเจ้าที่นี้ มีลักษณะโด่ดเด่นแตกต่างสวนสาธารณะทั่วไปยังไงครับ

คุณปอนด์ : ที่นี่ไม่ใช้สวนสาธารณะ  ที่นี้เป็นเหมือนเกาะถ้ามองมุมสูง มีเนื้อที่ประมาณ 12,000 ไร่ นะครับ  เป็นพื้นที่สีเขียว ห้ามมีสิ่งปลูกสร้างเกิน 15 เมตร ห้ามมีหมู่บ้านจัดสรร  มีกฎหมายหลายอย่างในตอนนี้  ยังคงเป็นพื้นที่สีเขียวต่อไป 

คุณเบส : ลักษณะพิเศษของเกาะนี้ ก็จะเป็นรูป จากที่คนเขารู้ เป็นรูปทรงกระเพาะหมู  เป็นพื้นที่สีเขียว ที่หลายคนมาที่นี้ก็คือ รับโอโซน อากาศธรรมชาติของที่นี้ 

ผู้สัมภาษณ์ที่ 2 : แหล่งศึกษาลักษณะเด่นๆที่คนชอบมา ที่นี้ คืออะไรครับ 

คุณเบส : ก็จะเป็นของทางด้าน วัฒนธรรม  มีหลายอย่าง ภูมิปัญญา ทางศาสนา มีโบสถ์เก่าๆที่เราหลายๆคนไม่รู้ ตั้งแต่สมัยของรัชกาลที่ 3 รัชกาลที่ 2 ก็มี วัดต่างๆของบางตำบลแต่ละตำบล

ผู้สัมภาษณ์ที่ 1 : แล้วจักรยาน เช่าปั่นได้ปกติ

คุณปอนด์ : คนส่วนใหญ่เขาจะมาตามแผ่นที่ นะครับ เหมือนกับที่เส้นทางที่ผมพาขี่ ก็จะพาขี่ตามทางเล็กอ่ะครับ แต่คนส่วนใหญ่จะได้แผนที่มาเนี่ย จะเป็นของถนนใหญ่  บางสถานที่เราจะไม่เห็น ต้องมีคนในพื้นที่พาไป 

ผู้สัมภาษณ์ที่ 1 : แล้วผู้ที่ดูแลคุ้งบางกระเจ้า เป็นหน่อยงานไหน 

คุณปอนด์ : ก็หลายหน่วยงานครับ  ที่นี้ก็ยังเป็นตำบล และก็อำเภอ 

คุณเบส : ส่วนมากก็จะเป็นพวกชาวบ้านที่ดูแลกันเอง

ผู้สัมภาษณ์ที่ 2 : ครับ ก็อยากให้พี่ทั้ง 2 คนฝากครเชิญชวนสำหรับคนที่สนใจจะมาคุ้งบางกระเจ้า หน่อยครับ 

คุณเบส : ครับผม สำหรับคนที่สนใจ ออกกำลังกาย หรือมารับอากาศธรรมชาติของที่นี้ ที่บางกระเจ้าหรือ ติดต่อพวกเรา 2 คนก็ได้ 

ผู้สัมภาษณ์ที่ 1 : ครับวันนี้ก็ ขอบคุณนะครับ

คุณเบส : ขอบคุณครับ

คุณปอนด์ : ขอบคุณครับ